Tuesday, May 5, 2015


5 ข้อที่ทำให้ชีวิตคุณเปล่งประกาย 



1. Serendipity ความสามารถในการพบเจอโชคดีโดยบังเอิญ 


โชคในที่นี้อาจเป็นได้ทั้งการพบปะผู้คน เหตุการณ์ หรือโอกาสที่ส่งผลให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น การทำให้ความบังเอิญกลายเป็นความโชคดีนั้น แท้จริงแล้วขึ้นอยู่กับเงื่อนไขสำคัญ 3 ประการ คือ (1) การลงมือทำ เราจำเป็นต้องลงมือทำอะไรบางอย่างก่อนเพื่อเปิดโอกาสให้ชีวิต (2) การสังเกตเห็น เราต้องหมั่นสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัว เพื่อเป็นการยกระดับความคิด และตั้งคำถามต่อโลกหรือสิ่งที่พบเจอ และ (3) การเปิดใจรับ เราต้องอย่าเพิ่งเริ่มปฏิเสธเวลาที่พบกับอุปสรรคที่ไม่คาดหวัง เพราะมันอาจจะนำพาไปสู่ความสำเร็จที่ไม่คาดฝัน


2. Creativity ความคิดสร้างสรรค์ 


ความคิดสร้างสรรค์สามารถฝึกฝนกันได้ ลองใช้เวลาอยู่กับตัวเอง สังเกตสิ่งรอบข้างในมุมกลับ ทดลองทำสิ่งที่ไม่ถนัด เปลี่ยนแบบแผนชีวิตประจำวันให้หลุดจากกรอบเดิม ๆ ดูบ้าง เปิดใจให้กับการเรียนรู้ศาสตร์และศิลปะแขนงอื่น ๆ ที่เราไม่เคยมีพื้นฐานมาก่อน เราอาจพบว่าความรู้ความเข้าใจจากเรื่องหนึ่ง สามารถมาเติมเต็มให้กับอีกเรื่องหนึ่งได้อย่างไม่น่าเชื่อ


3. Optimistic View การมองโลกในแง่ดี 


ทุกครั้งที่ชีวิตประสบกับเรื่องวุ่นวายให้ร้อนใจ ให้ปรับทัศนคติของตัวเราเองต่อเหตุการณ์นั้นว่า "สิ่งใดเกิดขึ้น สิ่งนั้นย่อมดีเสมอ" นี่เป็นเพียงแค่ขวากหนามเล็ก ๆ ที่เราต้องก้าวข้ามไป สุดท้ายแล้วเราจะเติบโตขึ้น เมื่อข้ามผ่านบททดสอบเหล่านั้นไปได้ ในทำนองเดียวกัน ทุกครั้งที่ชีวิตพลาดโอกาสอะไรไป ให้บอกกับตัวเองว่า "เราพลาดสิ่งนี้ไป เพราะทางข้างหน้ามีสิ่งที่ดีกว่ารออยู่" จงเชื่ออย่างสนิทใจว่าชีวิตจะนำพาเราไปสู่จุดที่ดีกว่าและคู่ควรกับเรามากกว่าเดิมเสมอ


4. Dynamic Range ความสามารถในการรับรู้ข่าวสารในขอบเขตที่กว้าง


เปิดตัวเองให้ได้สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ดูบ้าง เช่น อ่านหนังสือตำราที่อยู่นอกสาขาวิชาที่เรียนอยู่ ทดลองไปเข้าคอร์สอบรมหรือสัมมนาในเรื่องที่อยู่นอกสายงาน ออกไปพบเจอและพูดคุยกับผู้คนต่างอาชีพ เป็นต้น เมื่อเราขยายความสามารถตรงนี้ออกไปมากพอ เราจะพบว่าตัวเองสามารถสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และวิพากษ์วิจารณ์เชิงลึกในหัวข้อเรื่องต่าง ๆ กับผู้คนจากหลากหลายวงการได้อย่างมั่นใจ


5. Self Improvement การปรับปรุงพัฒนาตนเองอยู่เสมอ 


ในทุกวันที่ล่วงไป หากเราหยุดนิ่งอยู่กับที่ ไม่ได้พัฒนาตัวเองในด้านไหนเลย นั่นเท่ากับว่าเรากำลังก้าวถอยหลังทันที ไม่ต้องเปรียบเทียบตัวเองกับใคร แต่จงวิ่งแข่งกับตัวเราเองเมื่อวานนี้ ทุกคนรู้ดีว่าเวลาและโอกาสไม่เคยคอยใคร แล้วเราได้พัฒนาตัวเองให้พร้อมรับกับโอกาสที่ผ่านเข้ามาในชีวิตแค่ไหน อย่าลังเลที่จะลงมือทำในสิ่งใดก็ตาม ที่แม้แต่ตัวเราเองในอนาคต ยังอยากจะย้อนเวลากลับมาขอบคุณตัวเราเองในปัจจุบัน




No comments:

Post a Comment